บุญเดชหรือเฉินเหล่าซือ มือรับตัดหนัก 1 เดียวที่โดดเด่นอยู่ในตอนนี้ กับคำถามว่าทำไมจึงเล่นกับบุญเดชได้ยาก ผมขอวิเคราะห์ออกมาดังนี้
- ก็ต้องบอกว่าเป็นเราหาเล่นกับผู้เล่นแบบคุณบุญเดชได้ยาก เราจะไม่คุ้นเคยกับมือตัดหนักได้บ่อยๆ เราอาจลูก topspin หรือตีกับผู้เล่นยางเม็ดยาวบ้าง แต่จะหาคนเล่นตัดหนักให้บุกได้ยาก จะเห็นว่าคุรบุญเดชจะเดินสายเล่นไปในที่ต่างๆเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากจะสามารถได้พบกับมือแปลกๆแล้ว ยังสามารถหลีกเลี่ยงที่จะเล่นกับผู้เล่นซ้ำๆ จนผู้เล่นคนนั้นจับทางได้ หรือคุ้นเคย
สมัยก่อนทีมจีนมักจะมีมือสับแปลกเข้ามาเป็นมือสามของทีมสับเปลี่ยนกันมาเรื่อยๆ เพื่อเก็บแต้มจากทีมยุโรป เพราะชาวยุโรปไม่ค่อยได้เจอมือแปลกๆแบบนี้ และ Ting Song ก็เป็นหนึ่งในนั้นเขาสามารถสร้างความสับสนให้แก่ทีมจากยุโรปได้มากและผู้เล่นยูโรปส่วนมากก็แพ้ไปง่ายๆ แต่เมื่อมาเจอกับ Kong Linghui Ting Song ก็เละเป็นโจ๊กแพ้เกมส์ในแทบทุกเซ็ต นั่นเป็นเพราะเขาทั้งสองอยู่ทีมเดียวกันและซ้อมกันบ่อย Ting Song เล่นกับ Timo Boll เขาอาจสับได้หลายสิบไม้ แต่กับ Kong Linghui แล้วเขาไม่มีโอกาสเอาเสียเลย นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นมือรับ มือแปลกจึงไม่ควรเล่นกับใครบ่อยๆให้จับทางได้หรือคุ้นเคยน้ำหนักลูก
ปกติเรามักจะบุกเพื่อให้ได้แต้มด้วยลูก topspin แต่เราไม่เคยคิดกันว่าเราจะสามารถบุกด้วยลูกตัดได้ ผมเองก็ไม่เคยคิดเช่นกันจนกระทั่งได้ไปลองเล่นเครื่องยิงลูกเครื่องหนึ่ง เราลองลูก topspin ของเครื่องยิงผมสามารถ block ได้ตีตอบโต้ได้ ให้ลูกเร่งความหมุนของเครื่องไปที่ speed สูงสุดผมก็สามารถตีกลับไปได้ไม่ยาก แต่เมื่อลองเปลี่ยน มาที่ลูกหนัก เพียง speed ธรรมดาผมตีลูกวิ่งเข้าเน็ตหมด แม้จะรู้ว่าลูกนั้นหนักแต่ก็ประมาณการ topspin ไม่ถูกลูกไม่ข้าม ถ้าไม่เชื่อถ้ามีโอกาสท่านลูกค้าลองไปเล่นเครื่องยิงดูผมเชื่อว่า 3 -10ลูกแรกท่านไม่สามารถตีลูกให้ข้ามเน็ดแล้วลงโต๊ะได้ ถ้าทำได้ให้มาด่าผมเลย แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ให้มาซื้อยางจากผมไปเล่นเลย ….
ผมกำลังจะบอกว่า ถ้าเราสามารถฝึกลูกตัดได้ถึงขั้นที่ทำให้หนักได้สัก 70% ของเครื่องยิงทำได้ เราจะสามารถ ได้แต้มไม่ยาก ผมจะบอกว่าท่านอาจจะฝึก topspin ให้ลูกหมุนที่สุดเท่าที่ท่านทำได้ซึ่งก็ทำกันอยู่แล้วแต่คู่ต่อสู้จะสามารถรับกลับมาได้ไม่ยากเกินไป แต่สำหรับลูกตัดแล้วเพียงแค่ speed ธรรมดาของเครื่องยิงเราก็รับกับแทบไม่ได้อยุ่แล้ว นั่นหมายว่ามันยังมีลูกหนัก speed สูงสุดที่เครื่องยิงหรือเราจะสามารถจะทำได้อีกมาก ให้เราฝึก ผมหมายถึงว่าในคอนนี้พวกเราอาจจะทำลูกให้หนักได้เพียงแค่ 40-50% ของความสามารถที่เราสามารถจะทำได้เท่านั้น แต่หากเราฝึกตัดให้หนักถึงขั้น 90% จะเกิดอะไรขึ้น ลองดูอีกกรณีหนึ่งหากคุณยังจำกันได้สมัยยางเม็ดที่ไม่มีแรงเสียดทานยังใช้ได้อยู่นั่นพอเรา topspin ไปแรงๆลูกกลับมาจะหนักมาก ในบางลูกแม้เรารู้ว่าหนักแล้วเราพยายามแตะลูกให้ข้ามเน็ตไปแต่ลูกก็ยังวิ่งเข้าเน็ต นั่นหมายความว่าลูกมันหนักยิ่งกว่าหนัก กว่าที่เราคาดการณ์มาก แล้วทำไมลูกจึงหนักขนาดนั้น ? ทำไมเราไม่เคยตัดให้ลูกหนักจนคู่แข่งแตะแล้วลูกวิ่งพุ่งเข้าเน็ตได้ ก็เป็นเพราะว่าเรายังฝึกสับลูกหรือตัดลูกได้ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ แต่ทำไมลูกที่ได้จากเม็ดไม่มีแรงเสียดทานลูกจึงหนักวิ่งเข้าเน็ต ก็เป็นเพราะลูกที่หนักจากยางเม็ดนั้นมันได้มาจากความสปินของลูก topspin ของเรานั่นเอง อย่างที่บอกคือเราอาจฝึกลูก topspin ได้ถึง 80% ของความ spin สูงสุดเท่าที่จะเป็นได้ พอลูกวิ่งไปกระทบยางเม็ดไร้แรงเสียดทาน ลูกที่วิ่งกลับมาจะเป็น spin กลับที่อาจเหลือ 75% ของ spin ที่เรา topspin ไป มันหมายถึงว่านั่นเป็นลูกหนัก 75% ของความหนักที่จะเป็นไปได้ลูกจึงวิ่งเข้าเน็ต ในขณะที่ปกติเราสามารถตัดให้้ลูกหนักได้เพียง 40-50 % ของควาามหนักเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นหมายถึงว่ายังเหลือช่องว่างอีกถึง 50% ให้เราฝึกลองคิดดูว่าหากท่านสามารถฝึกตัดให้ลูกหนักได้ถึง 90% ของความสามารถที่ลูกจะสามารถหนักได้จะเกิดอะไรขึ้น
ท่านลองดูคลิปเก่า ในคลิปนี้คาซุมิอาจไม่ทราบความเร็ว/แรงของลูก topspin ที่มาจากเครื่องในครั้งแรก แต่จากนั้นเพียงลูกที่ 2-3 เธอก็สามารถ block ข้ามเน็ตให้ลงโต๊ะได้ไม่ยาก แต่ในขณะที่เปลี่ยนโหมดมาเป็นลูกหนัก ในนาที่ที่ 2.40 ท่านลองดูว่าเธอจะต้องใช้ความพยายามกี่ครั้งเพื่อตีให้ลูกลงโต๊ะ
ผมกำลังจะบอกว่าให้นักกีฬาทีมชาติไทยไปฝึกลูกตัดหนักดู นี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่ประเทศไทยจะได้เหรียญทองโอลิมปิก ท่านลองคิดดูสิว่าหากท่านตัดหนักได้ถึงขั้น คู่ต่อสู้จากต่างชาติรวมถึงจีน จะต้องใช้เวลาปรับกี่ลูกจึงจะตีข้ามเน็ตมาได้ นี่ยังไม่พูดถึงการตัดเบาหลอก เชื่อว่าไม่มีนักกีฬาจากชาติอื่นเข้ามาอ่านบทความนี้พวกเขาเตรียตัวไม่ทันแน่ ^^
รู้สึกผมจะเขียนไม่จบนะเหตุผลว่าทำไมคุณบุญเดชจึงเล่นด้วยยาก ขอพักไว้เท่านี้ก่อนแล้วกันนะครับ
-น้าหมู-