อ่านเพลินๆก่อนนอนนะครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

[อ่านว่า ซอร์ส เซ้นท์
ไม่ได้อ่านว่า สวอร์ด เซ้นท์ นะครับ]
เป็นไม้ที่พัฒนามาจากรุ่น Blue Feather โดยใช้วัสดุที่สอดไส้เป็น Super JLC[Super Jylon Carbon] ที่ผลิตและคิดค้นมาสำหรับ Sword โดยเฉพาะ โดยรุ่น Saint นี้ได้จัดวาง JLC ไว้ถึง 4 ชั้นด้วยกัน โดยอิงตามรุ่น Blue Feather คือจัดวาง JLC ไว้ติดกับผิวไม้ชั้นบนทั้งสองด้าน และมีการเพิ่มขึ้นมาอีกสองชั้น จัดวางไว้ติดกับไม้ชั้นกลาง

***_ว่ากันถึงคุณสมบัติของ JLC เมื่อเปรียบเทียบกับ ALC_***

JLC จะมีความนุ่มนวลมากกว่าตัว ALC ประมาณ 10-15% มีความยืดหยุ่นและกระจายแรงได้ดีกว่า แต่กลับมีความแรงของการสะท้อนกลับที่มากกว่า ALC ถึงประมาณ 15% เลยทีเดียว

Super JLC คือใช้การสานเส้น Fiber JLC เป็นสองชั้นถี่ขึ้น จะส่งผลให้ไม้ Saint มีการกระจายแรงที่สม่ำเสมอ รวมถึงเพิ่มความรู้สึกแน่นให้แก่ไม้อีกด้วย
รุ่น Saint มีการใส่ Super JLC ไว้ถึง 4 ชั้น เมื่อเราออกแรงสัมผัสลูกเบาๆ เช่น การวางลูกหน้าเน็ต การบล็อคลูกสปินจัดๆ หรือการเกี่ยวสปินในโต๊ะ สามารถบังคับจุดตกได้แม่นยำมากๆ แต่เมื่อเราออกแรงตีกระแทกลูก จนแรงของเราถูกส่งไปยังไม้ชั้นกลาง ลูกปิงปองจะอยู่ในไม้ค่อนข้างนานกว่า ALC อย่างเห็นได้ชัด และวิถีของลูกจะเป็นเส้นโค้งทุกครั้ง

ขอยืมศัพท์คำว่า “มุมโยน” ของกูรูหลายๆท่านมาใช้หน่อยนะครับ ทางหลักฟิสิกส์เรียกว่ามุมตกกระทบนั่นเองครับ ไม้ Saint จะมีมุมโยนหรือองศาที่ตกกระทบค่อนข้างสูง ทำให้สามารถสร้างวิถีโค้งให้เกิดได้อย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นจึงตัดปัญหาการตีไม่พ้นเน็ตไปได้เลย

เอาล่ะครับ เราเรียนรู้สิ่งที่อยู่ในไม้ Saint กันแล้ว ต่อไปจะขอพูดถึงลักษณะโดยทั่วไปของไม้รุ่นเรือธงของ Sword เลยนะครับ

-ขนาดหน้าไม้ 14.9×15.6 cm.
-ไม้หนา 7 mm.
[Blue Feather หนา 5.8-6 mm.]
-น้ำหนัก 83-85 กรัม
-ชั้นไม้ 5 wood + 4 SuperJLC
ด้ามจับมีเฉพาะ FL ครับ ซึ่งด้ามของ Sword แทบทุกรุ่นจะค่อนข้างใหญ่เต็มมือครับ ปลายด้ามจะบานกว่า Blue Feather และบานกว่าด้าม FL ของค่ายผีเสื้อเล็กน้อย
-sweet spot มีความสม่ำเสมอใกล้เคียงกันทั้งไม้
-ไม้ชั้นกลางที่เป็นแกนไม้ของ Saint ค่อนข้างบางมาก ถัดจากแกนกลาง ได้จัดวาง Super JLC ไว้ด้านละ 1 ชั้น และจัดวาง Super JLC ไว้ที่ชั้นถัดจากผิวไม้ชั้นแรกอีกด้านละ 1 ชั้น
-งานไม้โดยทั่วไป เรียบเนียน ละเอียด ตามเกรดของไม้ระดับสูงของ Sword

Review Sword Saint by…..
1.)คุณโก ศรัญญู ลียง Central แชมป์เปี้ยน ปิงปองบอร์ด Division 1 ในครั้งแรก
2.)น้องเบียร์ ดืมลีโอ แล้วไปนอนซะ
อดีตนักกีฬาของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
3.)น้องเก้า ศักกวี นักกีฬาฝีมือดี สโมสร ITC group ศิษย์เอกของครูเก่ง ไม้จีน
4.)น้องอู๋ นักกีฬาดาวรุ่งจากสโมสร ITC group รุ่น 18 ปี
5.)น้องเก่ง ภูผาที่หวั่นไหว
จากการที่นักกีฬาทั้ง 5 คนรวมถึงตัวผมเองได้ลองตีไม้ Saint ในหลากหลายรูปแบบ มีความเห็นที่สรุปประเด็นได้ดังนี้

**การตีแบบปกติ หรือตีเบสิค**
จะรู้สึกได้ถึงความแน่นของไม้ที่เพิ่มมากขึ้นจากตัว Blue Feather ลูกที่ออกจากไม้จะรู้สึกว่าไม่แรงเอาเสียเลย แต่ลูกที่ตีออกไปสามารถส่งถึงท้ายโต๊ะได้ตลอด ลูกจะอยู่ที่ไม้เรานานขึ้นสามารถบังคับทิศทางได้ดี
เต็ม 100 ผมให้ 85 สำหรับคนที่ยังไม่คุ้นชินในการควบคุมลูกระดับจับวาง แต่เมื่อแต่ไปสักระยะ เชื่อว่าทุกคนให้เต็ม 100 แน่นอนครับ

**การบล็อค**
ทำได้ดีมากๆ ทั้งการบล็อคลูกสปินแบบเพียวๆ หรือแม้จะบล็อคตามหลักทั้ง 3 ประเภทคือ บล็อคธรรมดา บล็อคเพิ่มแรง และบล็อคผ่อนแรง เต็ม 100 ก็คงต้องให้ 100 ล่ะครับ

**การขึ้นลูก**
คุณโกและคุณเบียร์ค่อนข้างพอใจกับการขึ้นลูกมาก ทั้งลูกท้อปสปินหรือขึ้นลูกหนัก แต่ด้วยทั้งสองท่านนี้ต้องการความเฉียบคมมากกว่านี้ จึงแนะนำว่า ไม้ Saint ควรติดกับยางที่ค่อนข้างแข็งสักหน่อย เพื่อลดมุมโยน และลูกพุ่งมากขึ้น
เต็ม 100 ให้ 85 ครับ

**การตีลูกสวนไกลโต๊ะ**
เนื่องจากไม้ Saint เป็นไม้ที่มี Super JLC ถึง 4 ชั้น และแกนไม้ชั้นกลางค่อนข้างบาง ทำให้การระเบิดพลังไกลโต๊ะทำได้ไม่ดีนัก แต่ไม้นี้ จะส่งผลโดยตรงให้หน้ายางเกิดความสปินที่มากขึ้น เนื่องจากลูกอยู่กับผิวยางนานขึ้น ทั้งยังสร้างการเคลื่อนที่แบบเส้นโค้งได้มากกว่าปกติอีกด้วย
เมื่อเราออกไปสวนไกลโต๊ะ ควรใส่เต็มแรงเท่านั้น ลูกที่ออกไปจะทรงประสิทธิภาพในด้านสปินและความโค้งมาก ไม่ควรตีผ่อนแรงหรือตีแบบเสียดสีหน้ายางเพียงอย่างเดียว แต่ควรตีแบบให้ลูกจมฟองน้ำด้วย
เต็ม 100 ให้ 90

**การตีเข้าเกมส์**
ไม้ Saint เป็นไม้ที่ค่อนข้างเอาใจยากสักนิดนึง เพราะเมื่อเราตีเบาๆ ลูกก็จะเบาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เมื่อเราตีเต็มแรง ก็จะมีความเร็วปลายที่สูงเช่นกัน ดังนั้น การเลือกเทคนิคการตีที่เหมาะสมกับไม้ Saint จึงต้องค่อนข้างละเอียดสักหน่อยครับ
ไม้ Saint เปรียบเสมือนการที่เรามีไม้ Offensive – อยู่ในมือ แต่เราได้ใส่ Skill รุนแรงแอบแฝงไว้ด้วยเผื่อจะต้องกด Skill ใช้ในยามจำเป็น จึงค่อนข้างเหมาะกับนักกีฬาที่เป็นนิยมบล็อค วางลูก เปลี่ยนจังหวะ ใช้เทคนิคมากกว่าความรุนแรง หรือนักกีฬาที่นิยมเล่นชิดโต๊ะเป็นหลัก ชอบตีกระแทกสั้นได้แบบรุนแรง และสามารถหาจังหวะและโอกาสที่จะโจมตีแบบเต็มไม้ได้อย่างบ่อยครั้ง

ถ้าปรับตัวกับไม้ Saint ได้แล้ว การเล่นปิงปองของเราจะเกินข้อจำกัดของไม้ทั่วไป กล่าวคือ สามารถพลิกแพลงรูปแบบการเล่นของตัวเองได้แทบทุกสถานการณ์ โดยมีไม้เป็นตัวเสริมที่ดีนั่นเอง

เต็ม 100 ให้ 120 เลยครับ

**ยางที่เหมาะสมกับไม้ Saint**
1.ยางที่ฟองน้ำค่อนข้างแข็ง มีพลัง
2.ยางที่สปินสูงๆ ฟองน้ำไม่แข็งมาก แต่มีความแน่นของฟองน้ำ เช่น ยางจีนรุ่นใหม่ๆ ฟองน้ำพรุน ไม่ตื้อ ไม่อั้น
3.ยางที่ฟองน้ำนุ่มหน่อยก็ได้ แต่สปินอาจจะไม่ต้องเยอะมาก เน้นการตีกระแทกจมฟองน้ำ(ยางยุโรปนั่นเอง)

ทั้งสามประเภทที่กล่าวมา ขึ้นอยู่กับสไตล์และวิธีตีของแต่ละคนเป็นหลักครับ

 

ขอขอบคุณนักกีฬาทุกท่านอย่างยิ่งที่มาร่วมทดสอบและร่วมรีวิวในวันนี้ครับ